บันได 5 ขั้น สู่ความผูกพันระหว่างพนักงานและองค์กร

ทรัพยากรบุคคลถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ไปสู่เส้นชัยแห่งความสำเร็จ การมีพนักงานที่มีประสิทธิภาพร่วมกันทำงานสอดรับกันจากหลาย ๆ ฝ่าย ย่อมช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีศักยภาพ อย่างไรก็ดีแม้เทคโนโลยีหรือ AI จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในระบบการทำงาน แต่ก็ยังเป็นเพียง Tools ที่ยังต้องผ่านการบริหารโดยตัวบุคคล ดังนั้น การรักษาคนทำงานที่เชี่ยวชาญให้อยู่กับองค์กรนานที่สุดยังคงเป็นสิ่งจำเป็น

วันนี้ JobDBs พาทุกคนมารู้จักกับการบันได 5 ขั้น ที่จะช่วยต่อเติมความรัก สร้างความผูกพันระหว่างพนักงานกับองค์กร ให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน

พนักงานถือเป็นทรัพยากรบุคคลสำคัญสำหรับทุกองค์กร การมีพนักงานที่ดี ทำงานด้วยความเต็มใจ จงรักภักดีต่อบริษัท ย่อมช่วยรักษาผลประโยชน์ให้บริษัท ทั้งการรักษาผลประโยชน์และหารายได้เพิ่มให้องค์กรอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย ดังนั้น การทำให้พนักงานเต็มใจทำงานเพื่อองค์กร ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยขับเคลื่อนให้องค์กรเจริญก้าวหน้าได้รวดเร็ว

การสร้างวัฒนธรรมที่ดีในองค์กร เป็นประโยคที่คุ้นเคยกันมาพอควร หลายคนอาจจะคิดว่าองค์กรทำอยู่แล้ว มีอยู่แล้ว แต่ลองพิจารณาแบบไม่เข้าข้างตัวเองการมีอยู่ของโครงสร้างเหล่านั้น ตอบโจทย์พนักงานจริงหรือไม่ หรือมีเพียงเพราะว่าเป็นเทรนด์ มีเพียงให้มีแต่ไม่รู้ว่ามีเพื่อใคร 

วัฒนธรรมการทำงานที่ดีควรสนับสนุนการทำงานของพนักงานให้เป็นไปอย่างมีความสุข จริง ๆ แล้วค่อนข้างกว้างและไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว อาจจะเริ่มจากการทำสำรวจ สัมภาษณ์และสำรวจความต้องการของพนักงาน แล้วจัดทำนโยบายและกิจกรรมที่ส่งเสริมการทำงานที่มีความสุข เปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางธุรกิจ หรือออกความเห็นในเรื่องต่าง ๆ สร้างพื้นที่ทำงานที่เปิดกว้างสำหรับการสื่อสาร

ดังนั้น วัฒนธรรมที่ดีของแต่ละองค์กรไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน อยู่ที่ว่าวัฒนธรรมไหนคนในสังคมจะเอ็นจอยและแฮปปี้ รวมทั้งเงื่อนไขต่าง ๆ ทางธุรกิจที่แตกต่างกัน ก็ส่งผลด้วย

อย่างที่ทราบกันดีว่า คนทำงานรุ่นใหม่พิจารณาเรื่องสวัสดิการเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ  ในการทำงาน สวัสดิการที่ดีที่เหมาะสมย่อมทำให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรใส่ใจและให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของพนักงาน ไม่ได้ตั้งใจมาขูดรีดหรือใช้งานตามโลกทุนนิยมเท่านั้น 

องค์กรไหนที่ให้สวัสดิการและผลประโยชน์ตอบแทนดี ไม่ใช่แค่ได้ใจทั้งคนทำงานจนเกิดเป็นความผูกพันและความพึงพอใจในของคนในองค์กรเท่านั้น แต่ยังได้ในเรื่องการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์หรือองค์กรไปในตัว ได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานอีกด้วย (ดึงดูด Talent เก่ง ๆ ให้มาสมัครงานกับองค์กรมากขึ้น)

ตัวอย่างสวัสดิการที่ได้ใจคนทำงานรุ่นใหม่

• Work from Anywhere / Hybrid 

• สวัสดิการเกี่ยวกับสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ 

• สวัสดิการประกันสุขภาพที่ดูแลถึงคนในครอบครัว

• โบนัสประจำปีหรือการปรับเงินเดือน

• วันลาพักร้อนแบบไม่อั้น ลาเท่าไรก็ได้ถ้างานเสร็จ

• วันลาเพื่อไปดูแลบุพการี / ลาในการผ่าตัดแปลงเพศของกลุ่มเพศทางเลือก / ลาในวันเกิดของพนักงาน / วันลาพิเศษสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่

การสนับสนุนให้พนักงานพัฒนาตัวเองอยู่เสมอเป็นสิ่งจำเป็นก็จริง แต่ต้องเป็นไปด้วยความเต็มใจของพนักงานเอง อย่าเลือกใช้วิธีบังคับ เพราะสุดท้ายแล้วไม่เกิดประโยชน์ในระยะยาวอยู่ดี เผลอ ๆ อาจจะเกิดการต่อต้านของพนักงานด้วยซ้ำ ควรเปิดกว้าง ให้พนักงานสมัครใจที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเอง ซึ่งทักษะหรือคอร์สต่าง ๆ อาจไม่ต้องเป็นเรื่องงานก็ได้ จะทำอาหาร วาดรูป จัดดอกไม้ ร้องเพลง เต้น ออกกำลังกาย ฯลฯ 

องค์กรควรเปิดกว้าง ให้พนักงานได้เรียนรู้ในสิ่งที่สนใจนอกเหนือจากการทำงาน ออกไปใช้ชีวิตในด้านอื่น ๆ จะสนับสนุนค่าเล่าเรียนบางส่วน หรือให้เวลาไปเรียนก็ได้หมด สิ่งที่ได้กลับมาถึงจะไม่ใช่ทักษะในเรื่องงานโดยตรง แต่หัวใจพนักงานมีความสุข การทำงานก็มีประสิทธิภาพไปโดยปริยาย

การให้อิสระและการสนับสนุนความสุขทางใจ แสดงออกถึงการเห็นคุณค่าความสุขของพนักงาน มากกว่าในเรื่องงานเพียงอย่างเดียว ซึ่งอะไรแบบนี้ซื้อความรัก ความผูกพันได้มากกว่าการบังคับ

ใครว่าบรรยากาศการทำงาน สภาพแวดล้อมไม่สำคัญในการทำงาน การตกแต่งที่ล้าหลังออกแนวโบราณ มองไปทางไหนก็ชวนอุดอู้ ไม่มีมุมให้พักสายตาหรือผ่อนคลาย หรือหันซ้ายหันขวาเจอแต่เพื่อนร่วมงาน Toxic สิ่งเหล่านี้ใครเจอก็ชวนหดหู่ ชวน Burnout ได้ง่าย ๆ อย่าลืมว่าคนเราทำงานวันละ 8 ชั่วโมง แล้วต้องเจออะไรแย่ ๆ แบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา 5 วัน ความผูกพัน ความรักต่อองค์กรจะเกิดขึ้นได้ตอนไหน

การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้พนักงานรู้สึกคอมฟอร์ท ทำได้หลายวิธี อย่างแรกอาจจะปรับการตกแต่งออฟฟิศให้ดูโมเดิร์นขึ้น มีมุมนั่งทำงานแยกย่อย มีต้นไม้สีเขียวให้พักสายตาบ้าง มีบาร์ขนมนมเนยให้ได้แวะไปเติมพลัง ห้องเล่นเกม ห้องพักผ่อน หรือมีกิจกรรมในที่ทำงานนอกเหนือจากเรื่องงานบ้าง ไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียดตลอดเวลา สร้างบรรยากาศการทำงานให้สนุก คนทำงานมีความสุข

ข้อนี้เรียกได้ว่าเป็นบันไดขั้นสูงสุดของการสร้างความรัก ความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร พูดง่ายทำยาก เพราะการจะ “สำคัญ” ได้ ต้องทำให้รู้สึกแบบจับต้องได้ โดยสิ่งเหล่านี้ต้องเกิดขึ้นอย่างเท่าเทียมกับพนักงานทุกตำแหน่ง ไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่ง 

ผู้บริหาร หัวหน้างานถ้าเป็นไปได้ควรให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคนด้วยความใส่ใจ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการเรียกชื่อ การจดจำรายละเอียดของกันและกันการพูดจาทักทายอย่างเป็นกันเอง หรือกล่าวชื่นชมกันอย่างสร้างสรรค์บ้าง พนักงานจะได้มีกำลังใจไม่ใช่เรียกไปตำหนิอย่างเดียว ทั้งหมดที่ยกตัวอย่างไปอาจจะดูเล็กน้อย แต่ช่วยสร้างความผูกพันให้เกิดขึ้นภายในองค์กรได้ 

การสร้างความผูกพันระหว่างพนักงานกับองค์กร ต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนทั้งพฤติกรรมของพนักงานและแนวคิดของผู้บริหาร โดยทั้งสองอย่างต้องไปในทิศทางเดียวกัน แน่นอนว่าต้องใช้เวลาปรับกันแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่หากองค์กรให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้จริง ทั้งหมดจะถูกสะท้อนออกมาผ่านนโยบายการบริหารงาน จนเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม 

ความรัก ความผูกพันของคนทำงานกับองค์กรย่อมเกิดขึ้นแน่นอน ถ้าเกิดพวกเขารู้สึกว่าสำคัญจริง 

มองหางานที่ใช่ คนทำงานที่ตรงใจ ค้นหาทั้งหมดนี้ได้ที่ JobsDB แอปหางานอันดับหนึ่งของเมืองไทย