ข้ามไปที่เนื้อหา
Hiring Advice วิธีดึงดูดผู้สมัคร เคล็ดลับมัดใจพนักงานทุกวัยให้อยู่หมัด
เคล็ดลับมัดใจพนักงานทุกวัยให้อยู่หมัด

เคล็ดลับมัดใจพนักงานทุกวัยให้อยู่หมัด

เป็นเรื่องน่ายินดีที่หลาย ๆ องค์กรเปิดกว้างให้พนักงานต่างวัยต่าง Gen ได้ทำงานร่วมกัน ตั้งแต่กลุ่มคน Gen Z Gen Y ไปจนถึง Gen X เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรให้มีความหลากหลายทางความคิด แต่บางครั้งด้วยความแตกต่าง ของวัยและประสบการณ์ชีวิตก็ทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันได้

“เด็กสมัยนี้ไม่อดทนเลย” หรือ “ผู้บริหารไม่ทันสมัยเลย ไม่รู้ว่าคนรุ่นใหม่ต้องการอะไร?” เคยได้ยินประโยคทำนองนี้บ้างมั้ยคะ สาเหตุก็เพราะแต่ละ Gen มีแนวคิดและรูปแบบการทำงานไม่เหมือนกัน ผู้บริหารจะมัดใจพนักงานทุก Gen ได้ ควรเข้าใจความแตกต่างของแต่ละ Gen เสียก่อน จากนั้นจึงค่อยหากลยุทธ์ บริหารพนักงานทุกวัยให้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น

จากผลสำรวจ Laws of Attraction ที่ จ๊อบส์ ดีบี ได้สำรวจผู้สมัครงานที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 18-54 ปี ในประเทศไทย กว่า 6,000 คน ช่วยให้รู้ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ดึงดูดผู้สมัครงานในช่วงวัยที่ต่างกัน และควรบริหารพนักงานต่างวัยอย่างไรให้ได้ใจทุก Gen

Gen Z 

คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุ 23 ปีลงไป ส่วนมากเป็นพนักงานในระดับเจ้าหน้าที่หรือเพิ่งจบการศึกษาระดับ

ปริญญาตรี ชอบใช้ชีวิตอิสระ เปิดกว้างทางความคิด มีความเป็นตัวของตัวเอง สนใจเรื่องเทคโนโลยี ถนัดการใช้โซเชียลมีเดีย รู้ทันข่าวสารและติดตามเทรนด์อยู่เสมอ

แรงจูงใจในการทำงาน

Gen Z ให้ความสำคัญกับโอกาสก้าวหน้าในอาชีพ คิดเป็นร้อยละ 15 ในส่วนของเงินเดือนคือร้อยละ 14.1 และความมั่นคงในอาชีพร้อยละ 13.1 จากผลสำรวจจะเห็นได้ว่าวัยนี้ชอบทำงานที่สนุกและท้าทาย เพราะอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยากทำงานในองค์กรที่ให้อิสระทางความคิด ยืดหยุ่นเรื่องเวลา และใช้เทคโนโลยีช่วยในการทำงาน

เป้าหมายการทำงาน

ถึงแม้ว่า Gen Z จะมองหางานที่เติมเต็มความสุขเป็นปัจจัยหลักมากกว่าเงินเดือน แต่ก็ยังต้องการเติบโตในหน้าที่การงาน พร้อม ๆ กับการมีสมดุลชีวิตที่ดี นอกจากนี้ยังไม่ยึดติดกับการหารายได้จากงานประจำเพียงอย่างเดียว อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ไม่อยากทำงานเป็นลูกจ้างไปนาน ๆ ถ้าทำงานประจำ ก็จะเลือกทำงานกับสตาร์ทอัพรุ่นใหม่หรือองค์กรที่มีความทันสมัย และเมื่อเงินเดือนไม่ใช่ปัจัยหลัก คน Gen Z ก็พร้อมรับมือกับความเสี่ยงในการทำงานมากกว่าวัยอื่น ไม่กลัวที่จะเปลี่ยนงาน เพราะส่วนมากวัยนี้ยังไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายมากนัก

Gen Y

เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าคนยุค Millennials วัยนี้มักทำงานในตำแหน่งระดับกลาง เป็นรุ่นพี่ของพนักงานจบใหม่

ไปจนถึงหัวหน้างาน เติบโตมากับเทคโนโลยี มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่อิสระพอสมควร แต่ยังคงอยู่ในกรอบเพราะต้องแบกรับภาระรับผิดชอบครอบครัวและลูก

แรงจูงใจในการทำงาน 

Gen Y ให้ความสำคัญกับโอกาสก้าวหน้าในอาชีพ คิดเป็นร้อยละ 14.6 รองลงมาคือความมั่นคงในงานร้อยละ 13.4 จะเห็นได้ชัดว่าวัยนี้มักเลือกทำงานกับองค์กรขนาดกลางและใหญ่ มากกว่าสตาร์ทอัพเล็ก ๆ นอกจากนี้ยังมองหาสวัสดิการอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากเงินเดือน เช่น โบนัส ค่าล่วงเวลา วันลาพักร้อน คอร์สเรียนเพื่อพัฒนาทักษะการทำงาน และประกันสุขภาพ เป็นต้น

เป้าหมายในการทำงาน

การได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นจนถึงระดับหัวหน้างานเป็นเป้าหมายสำคัญในการทำงานของวัยนี้ มักจะเลือกทำงานที่มี carreer path ที่ชัดเจน มีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานไว ทุ่มเททำงานเพื่อตัวเองและต้องการเป็นที่ยอมรับของคนในองค์กร แต่ก็ยังให้ความสำคัญกับการทำงานที่ยืดหยุ่นเรื่องเวลา สามารถทำงานนอกสถานที่ได้

Gen X

เป็นทายาทของคนรุ่น Baby Boommer คน Gen X มีประสบการณ์ทำงานมากกว่า 15 ปี และเติบโตมากับการเลี้ยงดูที่มีกฎระเบียบชัดเจน ไม่ค่อยออกนอกลู่นอกทาง มักทำงานในตำแหน่งผู้บริหารหรือมีกิจการส่วนตัว มีรายได้หลักมาจากงานประจำและการลงทุน

ลักษณะการทำงาน

เนื่องจากคน Gen X ได้รับการเลี้ยงดูให้มีระเบียบวินัย ทำให้มีรูปแบบการทำงานที่เป็นขั้นเป็นตอน ชอบงานด้านบริหารและทำงานเป็นทีม แต่ก็ยังให้ความสำคัญกับชีวิตส่วนตัวด้วย เพราะคนในวัยนี้ส่วนใหญ่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว มีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบ Gen X จึงแบ่งเวลาการทำงานที่ชัดเจน ทำงานให้เสร็จในชั่วโมงการทำงาน มากกว่าที่จะทำงานล่วงเวลาหรือเอางานไปทำต่อที่บ้าน

เป้าหมายในการทำงาน

Gen X มองหาความมั่นคงในการทำงานมากกว่า Gen อื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 15.4 ไม่ค่อยเปลี่ยนงานบ่อย ทำงานเพื่ออนาคตในวัยเกษียณและดูแลคนในครอบครัว นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับเงินเดือนและสวัสดิการต่าง ๆ เช่น โบนัส และประกันชีวิต คิดเป็นร้อยละ 18.4 จึงทำให้ Gen X อยากร่วมงานกับองค์กรที่มีชื่อเสียง มีวัฒนธรรมองค์กรที่ตรงกับความต้องการของตน

ปัจจัยในการดึงดูดพนักงานแต่ละ Gen

1_differentgenloa-chart

เคล็ดลับมัดใจพนักงานให้ได้ใจทุก Gen

ได้ทำความรู้จักพนักงานทั้งสาม Gen ไปแล้ว การจะบริหารพนักงานต่างวัยให้ได้ใจทุก Gen ต้องอาศัยทั้งหลักจิตวิทยาและค่าตอบแทนที่มีมูลค่ามากกว่าจำนวนเงิน เพื่อให้พนักงานทุกคนรู้สึกมีคุณค่าต่อตัวเองและองค์กร

Work-Life Integration 

การทำงานแบบ Work-life integration คือการหลอมรวมการทำงานและการใช้ชีวิตแบบไร้รอยต่อ เพื่อส่งเสริม

ชีวิตทั้งสองด้านให้ดีขึ้น ซึ่งแตกต่างจาก Work-life balance ที่มีการจำกัดชั่วโมงทำงานและพักผ่อนอย่างชัดเจน ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้รูปแบบการทำงานเปลี่ยนไป พนักงานไม่ต้องทำงานที่ออฟฟิศหรือตอกบัตรเป็นเวลาทุกวัน สามารถ Work from home หรือประชุมออนไลน์จากที่ไหนก็ได้ ซึ่งองค์กรที่บริหารงานแบบ Work-life integretion จะเน้นไปที่คุณภาพผลงานมากกว่าชั่วโมงการทำงาน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ตอบสนองความต้องการของคนทุกวัย

  • มอบสวัสดิการที่หลากหลาย

เพราะพนักงานแต่ละ Gen ก็มีแรงจูงใจในการทำงานที่ไม่เหมือนกัน สวัสดิการแบบเดิมที่ทุกคนได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนกันจึงไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป อาจให้สิทธิพนักงานบริหารจัดการสวัสดิการของตัวเองในงบประมาณที่องค์กรตั้งไว้ เช่น คนทำงาน Gen Z สนใจคอร์สเรียนพัฒนาทักษะการทำงาน เรียนภาษา บางองค์กรอาจมีสวัสดิการเปลี่ยนอุปกรณ์เทคโนโลยีให้ทุกปี ส่วน Gen Y และ Gen X ก็อาจจะสนใจประกันสุขภาพ สวัสดิการด้านการออกกำลังกาย ใช้บริการตามฟิตเนสต่าง ๆ ฟรี

  • ส่งเสริมให้เคารพซึ่งกันและกัน

ในสังคมการทำงานที่มีผู้คนหลากหลายวัย ต่างก็เติบโตมาจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน การดูแลพนักงาน

ทุก Gen ให้ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข ต้องรู้จักเคารพซึ่งกันและกัน ให้เกียรติกันในฐานะเพื่อนมนุษย์มากกว่าระบบอาวุโส องค์กรควรเปิดโอกาสให้คนต่าง Gen ได้ทำงานร่วมกัน อาจจะจับคู่กันระหว่างพนักงานใหม่กับรุ่นพี่ เพื่อแลกเปลี่ยนเทคนิคการทำงาน รู้ข้อดีข้อเสียของกันและกัน และเรียนรู้การปรับตัวทำงานกับคนต่างวัย

  • จัดกิจกรรมละลายพฤติกรรม

สาเหตุของการทำงานกับคนต่าง Gen แล้วมีปัญหา บางครั้งอาจเกิดจากความไม่สนิทสนมเกรงใจกัน หรือมีอคติ

ส่วนตัว เพราะฉะนั้นควรจัดกิจกรรมสนุก ๆ ที่ช่วยทลายกำแพงคนต่างวัย อาจจะเป็นกิจกรรมง่าย ๆ เช่น ทานอาหารกลางวันที่ออฟฟิศด้วยกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เที่ยว Outing จับคู่บัดดี้ หรือจัดกีฬาสีช่วยกระชับความสัมพันธ์ของทุกคน ได้พูดคุยสื่อสารกันในเรื่องอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการทำงานอีกด้วย

การบริหารพนักงานให้ได้ใจทุก Gen ไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจต้องใช้เวลาลองผิดลองถูก เรียนรู้กันไปสักพัก แต่อย่างน้อยก็ทำให้นายจ้างได้เข้าใจความต้องการในการทำงานของพนักงานแต่ละ Gen เพื่อเป็นประโยชน์ในการคัดสรรบุคลากรเก่ง ๆ ที่มีวิสัยทัศน์หมาะสมกับองค์กรให้ได้ทำงานร่วมกันในที่สุด ที่ จ๊อบส์ ดีบี เรามีข้อมูลเชิงลึกจาก Laws of Attraction   ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจปัจจัยในการดึงดูดพนักงานทุกเจน ทำให้การสรรหาบุคลากรของคุณเป็นเรื่องง่าย ได้คนตรงใจได้เร็วขึ้น

สมัครรับคำแนะนำเกี่ยวกับการจ้างงาน

รับข่าวสารเกี่ยวกับ คำแนะนำการจ้างงาน ผ่านทางอีเมลของคุณ
คุณสามารถยกเลิกการติดตามข่าวสารผ่านช่องทางอีเมลได้ตลอดเวลา โปรดรู้ไว้ว่าเมื่อกด 'ติดตามข่าวสาร' คุณได้ยอมรับเงื่อนไข คำชี้แจงสิทธิ์ส่วนบุคคลของ SEEK