โซเชียลมีเดีย: ต้องคัดกรองหรือไม่คัดกรอง

ด้วยโซเชียลมีเดียที่ปลายนิ้วมือของเรา การ “ทำความรู้จัก” ใครสักคนโดยไม่ต้องพบกันเป็น เรื่องง่ายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ในขณะที่ผู้สรรหาบุคลากรจำนวนมากขึ้นมองว่าเป็นวิธี ที่มีประโยชน์ในการหาและติดต่อกับผู้สมัคร การใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือในการคัดกรอง จึงมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น ดังนั้น หากผู้สรรหาบุคลากรจะใช้โปรไฟล์โซเชียลมีเดียของผู้สมัคร เป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการคัดกรองได้หรือไม่

ความเสี่ยงของการใช้โซเชียลมีเดียในการคัดกรองผู้สมัครคือนายจ้างเปิดโอกาสให้มี การเรียกร้องการรับผิดและการเลือกปฏิบัติ ในขณะที่มีเรื่องกฎหมายนำหน้าปัญหา พื้นที่สีเทา ของการคัดกรองและการสรรหาบุคลากรอาจมีความชัดเจนขึ้น เพราะการใช้โซเชียลมีเดียแพร่หลายยิ่งขึ้น

ผู้สรรหาบุคลากรบางคนหลีกเลี่ยงแนวทางปฏิบัตินี้ เพราะไม่สามารถแสดงออกได้อย่างถูกต้อง ผู้สมัครสามารถทำงานประจำของตนได้ดีแค่ไหน ผู้สมัครควรได้รับการตัดสินจากความสามารถ ในการทำงานในตำแหน่งและความเหมาะสมกับวัฒนธรรมโดยรวม ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาทำนอก เวลางาน อายุ รสนิยมทางเพศ ลักษณะภายนอกโดยรวม และอื่นๆ

ให้โฟกัสวิธีที่โซเชียลมีเดียจะสามารถสร้างวิธีคิดที่ผู้สมัครมีต่อบริษัทของคุณ และอนาคตของ พวกเขา หากพวกเขามาร่วมงานแทน

โดยทั่วไป ผู้สรรหาบุคลากรจะหลีกเลี่ยงการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อตัดว่าที่ผู้สมัครออก แต่ยังคงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะสำรวจบัญชีโซเชียลมีเดีย เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ สรรหาที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะที่ในขณะนี้ความเหมาะสมกับวัฒนธรรมองค์กรเป็นเรื่องที่สำคัญ สำหรับบริษัทจำนวนมาก

หากคุณต้องใช้โซเชียลมีเดีย ให้ใช้เพื่อหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสนใจของผู้สมัครเพื่อ เสริมกับเรซูเม่ ใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการดูข้อมูลต่างๆ เช่น งานอดิเรก ความใฝ่ฝัน และ ไลฟ์สไตล์

การกระทำผิดกฎหมายและพฤติกรรมต่อต้านสังคมเป็นสัญญาณอันตรายที่สำคัญ หากเนื้อหา โซเชียลมีเดียของผู้สมัครไม่สอดคล้องกับค่านิยมของบริษัท คุณควรปฏิบัติกับข้อมูลนี้ด้วย ความระวัง

อีกหนึ่งสัญญาณเตือนมาพร้อมกับความไม่สอดคล้องกันระหว่างเรซูเม่และโปรไฟล์ออนไลน์ ของผู้สมัคร โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องของประวัติการทำงานและไทม์ไลน์ของเรซูเม่ ในขณะที่ สิ่งนี้ไม่ได้ถูกใช้เพื่อไม่รับผู้สมัคร แต่เป็นจุดเริ่มต้นในการพูดคุยเกี่ยวกับความจริงและ ความสำคัญของการแสดงตัวในโซเชียลมีเดียอย่างถูกต้อง

ผู้หางานใช้โซเชียลมีเดียในเชิงรุกเพื่อค้นหาว่าที่นายจ้าง ด้วยเหตุนี้ องค์กรต่างกำลังลงทุน เวลาและทรัพยากรมากขึ้นในการนำเสนอแบรนด์ที่โดดเด่นออนไลน์ เช่นเดียวกัน ผู้หางาน ต่างใส่ใจวิธีการสร้างแบรนด์ตนเองสำหรับตัวตนออนไลน์ของตน และมักใช้เพื่อเป็นโอกาส ในการแสดงทักษะ ประสบการณ์ และความสำเร็จ

ในขณะที่ผู้หางานมักมีความถนัดในการใช้โซเชียลมีเดีย บางคนกลับไม่ทราบเกี่ยวกับ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น น่าเสียดายที่เกิดเหตุการณ์ที่ผู้สมัครไม่ทราบพลังของตัวตน ในโซเชียลมีเดีย และผลเสียที่อาจเกิดขึ้นกับอาชีพของพวกเขา