การดำเนินธุรกิจหรือการจัดตั้งบริษัทในทุกที่ เจ้าของบริษัททุกคนต่างก็หวังให้บริษัทของตัวเองเติบโตไปสู่ความก้าวหน้าด้วยกันทั้งนั้น แต่เส้นทางสู่ความสำเร็จนั้น มักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ในระหว่างทางจึงมีอุปสรรคนานัปการเข้ามาให้แก้ปัญหาอยู่เสมอ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการเตรียมพร้อมและวางแผนการบริหารงานให้ดี เนื่องจากการที่องค์กรเติบโตขึ้น ก็มักจะต้องมีเรื่องราวต่างๆ ให้จัดการมากขึ้นนั่นเอง 

ดังนั้นบทความนี้จะพาทุกคนไปเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับการบริหารองค์กรเมื่อถึงเวลาต้องขยายกิจการ รวมไปถึงวิธีรับมือเมื่อองค์กรเติบโตเร็วเกินไป

แม้โดยภาพรวมหากเราพูดถึงการขยายกิจการนั้น อาจมองดูเป็นเรื่องของความก้าวหน้าและประสบความสำเร็จ แต่หากขาดการบริหารจัดการที่ดี ก็อาจส่งผลเสียและทำให้องค์กรเติบโตไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพได้ โดยปัจจัยต่างๆ ที่อาจกลายเป็นปัญหาได้ มีดังนี้

เมื่อบริษัทขยายกิจการ ก็ต้องมาพร้อมกับกำลังคนที่มากมาย เพื่อรองรับเนื้องานที่มากขึ้น หากย้อนไปยังช่วงเริ่มต้นของบริษัท อาจจะมีพนักงานไม่มาก การดำเนินงานต่างๆ อาจขึ้นอยู่กับแค่คนไม่กี่คน แต่เมื่อบริษัทโตขึ้น คนทำงานก็มากขึ้น จากหนึ่งคนกลายเป็นหนึ่งทีม รวมกันแต่ละฝ่าย ก็กลายเป็นหลายทีม ดังนั้นการเตรียมพร้อมเรื่องของการบริหารจัดการคน รวมไปถึงการใส่ใจเรื่องการทำงานแบบเป็นทีม จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก

หากบริษัทที่กำลังขยายกิจการ แต่กลับประสบปัญหาเรื่องการบริหารทีม ก็อาจส่งผลเสียมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยนข้อมูล, ความขัดแย้งระหว่างบุคคล, ภาวะ Burn Out ของพนักงาน หรือการบริหารด้านการเงิน เป็นต้น ดังนั้นการขยายกิจการจึงควรต้องรัดกุมว่าพนักงานหรือคนในทีมทุกคน ล้วนมีเป้าหมายเดียวกันกับองค์กร เพื่อช่วยกันทำให้องค์กรเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ

เมื่อครั้งยังเป็นบริษัทขนาดเล็ก เราอาจจะมองภาพได้ง่าย ว่าพนักงานคนไหนมีความสามารถอะไร ทักษะไหนที่ตรงกับตำแหน่งบ้าง พร้อมการมองเห็นผลงานได้อย่างง่ายดาย และควบคุมได้โดยเจ้าของบริษัทเพียงแค่คนเดียวก็เอาอยู่ แต่เมื่อบริษัทเริ่มขยายกิจการ ก็จำเป็นที่จะต้องจ้างพนักงานเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างทีมใหม่ๆ รวมถึงการมีแผนกต่างๆ เยอะขึ้น ให้สอดคล้องกับการทำงานส่วนต่างๆ

มาตรการคัดคนเข้าทำงาน จึงอาจเป็นสิ่งที่เข้มข้นน้อยลง เพราะบริษัทกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อาจจะต้องรีบรับพนักงานมาเข้ามาทำงาน บางครั้งอาจได้คนที่ประสบการณ์ไม่มากพอ ทักษะยังไม่ตรงกับเนื้องาน ก็อาจทำให้บริษัทเสียเงิน เสียเวลา หรืออาจส่งผลเสียต่อการเติบโตได้

แน่นอนว่าการที่บริษัทยังมีขนาดเล็ก ก็สามารถมองเห็นทุกอย่างได้ง่ายดาย รวมไปถึงเรื่องของการเงิน ที่สามารถตรวจสอบได้รวดเร็ว ชัดเจน ตรงจุด ว่าเงินถูกใช้ทำอะไรในส่วนไหนบ้าง แต่เมื่อบริษัทขยายกิจการ เนื้องานในส่วนต่างๆ ก็ต้องเพิ่มขึ้น เม็ดเงินในการลงทุนจึงต้องกระจายไปในทุกส่วน และอาจทำให้ขาดการดูแลที่ทั่วถึงได้

อีกทั้งการที่บริษัทกำลังเติบโต ก็ย่อมต้องมีการใช้เงินมากขึ้น เพื่อรองรับเรื่องๆ ทั้งการขยายพื้นที่ออฟฟิศ หรือการจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น เป็นต้น จึงอาจต้องทำใจไว้ก่อนเลยว่าในช่วงแรกๆ ที่มีการขยายกิจการอาจจะขาดทุนหรือได้กำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากมีการบริหารจัดการที่ดี ทำให้มีกำไรเข้ามาต่อเนื่อง ก็อาจเป็นส่วนช่วยชดเชยส่วนที่เสียไปได้อย่างรวดเร็ว แต่หากเกิดความผิดพลาดขึ้นล่ะก็ งบการเงินก็คงจะติดขัด และส่งผลเสียต่อภาพรวมขององค์กรในอนาคตได้

การที่องค์กรเริ่มขยายกิจการ แม้จะถือเป็นความก้าวหน้าและความประสบความสำเร็จ แต่การเป็นผู้บริหารที่ดีต้องพยายามมองสิ่งรอบตัวอยู่เสมอ และนำสิ่งที่ประสบพบเจอมาประเมินเป็นระยะ เพื่อทำอย่างไรให้บริษัทเติบโตไปได้อย่างไม่ติดขัด แต่หากเกิดทัศนคติที่ว่าการขยายกิจการ นั่นคือการประสบความสำเร็จแล้ว จนไม่ยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้น หรือไม่มีการเรียนรู้เพิ่มเติม ก็อาจส่งผลเสียตามมาได้ ดังนั้นลองมาดูกันว่า เราควรสังเกตตรงจุดไหนบ้าง เพื่อให้รู้ว่าองค์กรนั้นกำลังเติบโตเร็วเกินไป

การขยายกิจการของบริษัทก็ต้องมาพร้อมกับผลลัพธ์ที่ดีขึ้น แต่ถ้าสุดท้ายแล้วบริษัทเติบโตแต่กลับไม่มีการพัฒนาขึ้นเลย หรือผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ตรงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ แถมยังไม่สามารถหาแนวทางแก้ปัญหาหรือพัฒนาให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นได้ นั่นก็แปลว่าองค์กรยังไม่พร้อมที่จะรับการเติบโตอย่างรวดเร็ว

ในปัจจุบันเรื่องของวัฒนธรรมองค์กรเป็นสิ่งสำคัญมาก พนักงานหลายคนให้ความใส่ใจในเรื่องนี้มาก เพราะทุกคนล้วนก็อยากมีความสุขในที่ทำงานด้วยกันทั้งนั้น แต่หากการขยายกิจการ กลับทำให้พนักงานรู้สึกว่าวัฒนธรรมองค์กรมีการเปลี่ยนไปจากเดิม หน้าที่ของผู้บริหารก็คือต้องทำให้พนักงานเห็นการขยายกิจการครั้งนี้ ไม่ได้ส่งผลต่อวัฒนธรรมองค์กรแบบเดิมที่เคยมีมา 

เรื่องของทรัพยากรในการทำงานอาจไม่ได้หมายถึงพนักงานอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงเรื่องของเงิน เวลา และความเหมาะสมของเนื้องาน หากผู้บริหารเน้นรับแต่ลูกค้าจนปริมาณมากเกินจำนวนทีมงานที่มา ก็อาจทำให้พวกเขารู้สึกเหนื่อยเกินความจำเป็น และแสดงให้เห็นว่าบริษัทยังไม่พร้อมที่จะขยายตัว

จากเดิมที่เคยทำงานกันอยู่แค่ไม่กี่คน ภายใต้บรรยากาศอันแสนอบอุ่น แต่พอบริษัทขยายกิจการแล้ว ก็มีจำนวนพนักงานที่มากขึ้น กลายเป็นมากคนมากความ เกิดเรื่องดราม่า หรือ Toxic ตามมามากมาย จนทำให้บรรยากาศการทำงานแย่ลง นั่นก็อาจเป็นอีกหนึ่งสัญญาณสำคัญว่าองค์กรโตเร็วเกินไป แต่หากผู้บริหารใส่ใจพนักงาน มอบหมายงานที่เหมาะสม สร้างกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ภายในให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ก็จะช่วยทำให้พวกเขาเอ็นจอยกับการเติบโตครั้งนี้ได้มากขึ้น

ข้อนี้อาจขยายต่อมาจากข้อที่แล้วได้ ถ้าผู้บริหารไม่แก้ปัญหาข้อที่แล้ว การที่พนักงานเรียงแถวกันลาออกนี่แหละคือผลลัพธ์ ดังนั้นหากเริ่มสังเกตเห็นว่าพนักงานไม่มีความสุขในการทำงาน หรือมีบรรยากาศการทำงานที่แย่ลง ต้องรีบแก้ปัญหาโดยด่วน เพื่อป้องกันการลาออกของพนักงานที่มีความสามารถ

แม้บางองค์กรที่อาจจะขยายกิจการไปแล้ว จะต้องพบกับอุปสรรคมากมาย แต่ก็อย่าเพิ่งกังวลใจไป เพราะเราจะมาแชร์เทคนิคดีๆ ในการรับมือกับการเติบโตอันรวดเร็วขององค์กรให้ได้ไปปรับใช้กัน

อันดับแรกเลยก็คือต้องใส่ใจพนักงาน และให้ความสำคัญกับพวกเขา เพราะนี่ถือเป็นกำลังหลักในการช่วยทำให้บริษัทเติบโต โดยอาจยึด 3 ข้อหลักๆ ดังนี้

• ทำความเข้าใจกับพนักงานเกี่ยวกับการเติบโตของบริษัท

• จัดคอร์สเทรนนิง เพื่อเพิ่มทักษะให้แก่พนักงาน

• เน้นการทำงานที่ไม่เครียด หาเวลาพักผ่อนให้พนักงาน

การขยายกิจการให้มีประสิทธิภาพ ต้องเริ่มต้นจากหัวเรือที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบริษัท ผู้บริหาร หรือหัวหน้าแผนกก็ตาม หากคุณสร้างความมั่นใจว่าการเติบโตครั้งนี้จะเป็นไปในทิศทางที่ดี พนักงานก็จะเกิดความมั่นใจ และพร้อมเดินไปข้างหน้าองค์กร นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเรื่องของการเป็นแบบอย่างในขั้นตอนของการทำงานด้วย หากคุณแสดงให้เห็นว่าเป็นตัวอย่างที่ดีได้ พวกเขาก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม

แน่นนอนว่าการขยายกิจการในช่วงแรกๆ ที่ต้องมีการปรับตัวกันพอสมควร ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ต้องอาศัยความอดทน บรรยากาศในการทำงานจึงเป็นเรื่องสำคัญ ควรเน้นการทำงานที่เห็นอกเห็นใจ ใครทำผิดตรงไหน ก็ช่วยกันแก้ ไม่ใช่มองหาคนผิด เพื่อนำมาลงโทษ นอกจากนี้ยังควรหาเวลาพักผ่อน หรือเบรคจากการทำงานอันเคร่งเครียดลงบ้าง เช่น การไปทานข้าวกลางวันร่วมกัน หรือทำกิจกรรมนอกเวลางานร่วมกัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายในองค์กร

การคัดเลือกพนักงานใหม่มาร่วมงาน ก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ เพราะช่วงแรกของการขยายกิจการ ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด หากคุณได้คนมีความสามารถมาร่วมงานด้วย ก็จะช่วยทำให้องค์กรเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ รวมไปถึงอาจต้องมองในเรื่องของทัศนคติหรือแนวทางการทำงานควบคู่กันไปด้วย เพราะหากพนักงานใหม่ไม่ฟิตกับวัฒนธรรมองค์กรของคุณ ก็สามารถสร้างปัญหา และทำให้เขาลาออกได้เช่นกัน

เมื่อมีฟีดแบ็คจากพนักงาน ควรให้ความสำคัญและรับฟังทุกความเห็น ยิ่งอยู่ในช่วงกำลังเติบโตแล้วด้วย อย่างไรเสียพนักงานก็ย่อมต้องเกิดข้อสงสัยต่างๆ อยู่แล้ว การดันทุรังไม่ฟังความเห็นใคร ก็อาจส่งผลเสียตามมา แต่หากนำความคิดเห็นของพนักงานมาวิเคราะห์ สิ่งเหล่านี้ก็อาจเป็นผลดี หรืออาจทำให้คุณได้รับไอเดียใหม่ๆ ที่จะช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างมั่นคงมากขึ้น

การขยายกิจการหรือการที่องค์กรกำลังเติบโต ถือเป็นเรื่องที่ดี และเป็นบันไดขั้นแรกที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้นการสร้างรากฐานให้มั่นคงจึงเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก หากมีการเตรียมพร้อมรับมือที่ดี การเติบโตอันรวดเร็วครั้งนี้ขององค์กรก็จะสมบูรณ์แบบ พร้อมรับความสำเร็จที่รออยู่ในอนาคต 

สำหรับบริษัทไหนที่กำลังมองหาพนักงานไปร่วมงานด้วย ก็สามารถเข้ามาดูโปรไฟล์ของคนที่คุณอยากชวนไปร่วมเติบโตกับองค์กรได้เลยที่ JobsDB ทั้งในเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน